E-Commerce คืออะไร มารู้จักกับมันดีกว่า

E-Commerce คืออะไร มารู้จักกับมันดีกว่า
E-Commerce คืออะไร มารู้จักกับมันดีกว่า
E-Commerce คืออะไร มารู้จักกับมันดีกว่า

E-Commerce คืออะไร

E-Commerce เกิดขึ้นครั้งแรก ในช่วงต้นทศวรรษที่ 1970  ในระยะแรกนั้นเป็นเพียงแค่การโอนเงินทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ระหว่างหน่วยงานต่อหน่วยงาน  ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่บริษัทใหญ่ๆ แต่สำหรับบริษัทขนาดเล็กนั้น ยังไม่ได้รับความนิยมสักเท่าไหร่   ต่อมาการแลกเปลี่ยนข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Data Interchange-EDI) เริ่มเข้ามามีบทบาท ประกอบกับคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลเริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นในยุคนั้น  ผนวกกับการพัฒนาด้านอินเทอร์เน็ต และเว็บไซต์ที่เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว  ทำให้หน่วยงาน และบุคคลต่างๆ เริ่มใช้ อีคอมเมิร์ซ หรือ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์มากขึ้น จนกระทั่งปัจจุบันนี้  อีคอมเมิร์ซ ได้กลายเป็นส่วนสำคัญในการทำธุรกิจไปเรียบร้อยแล้ว E-Commerce หรือชื่อภาษาไทยว่า “ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ” โดยความหมายของคำว่า พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์นั้น มีผู้ให้คำนิยามไว้หลากหลายมาก แต่ไม่มีคำจำกัดความใดที่ใช้อธิบายอย่างเป็นทางการ ลองมาดูคำจำกัดความต่างๆ กันสักนิด “ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ คือ ธุรกรรมทุกประเภทที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมเชิงพาณิชย์ ทั้งในระดับองค์กร และส่วนบุคคล บนพื้นฐาน การประมวล และการส่งข้อมูลดิจิทัลที่มีทั้งข้อความ เสียง และภาพ ” (OECD, 1997) “ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ คือ การผลิต การกระจาย การตลาด การขาย การขนส่งผลิตภัณฑ์ และบริการโดยใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์ ” (WTO, 1998) “ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ คือ การดำเนินธุรกิจโดยใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์ ” (ศูนย์พัฒนาพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์, 2542) ” โดยสรุปแล้ว อีคอมเมิร์ซ หรือ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ก็คือ การซื้อขายสินค้า และการให้บริการผ่านระบบอินเทอร์เน็ตนั่นเอง

ประเภทของ อีคอมเมิร์ซ

อีคอมเมิร์ซ สามารถแบ่งตามลักษณะของธุรกรรมที่เกิดขึ้นได้ 4 ประเภทดังนี้

1. B2B: Business to Business

คือการซื้อขายสินค้า และบริการ ในระหว่าง ธุรกิจหนึ่ง กับ อีกธุรกิจหนึ่ง ซึ่ง อีคอมเมิร์ซ ในรูปแบบนี้ ส่วนมากจะเป็นการซื้อขายที่มีมูลค่าสูง และมักเป็นธุรกรรมระหว่างบริษัทขนาดใหญ่ด้วยกัน

2. B2C: Business to Consumer

เป็นการซื้อขายสินค้า และบริการ ในลักษณะ จากธุรกิจไปสู่ผู้บริโภค การค้าออนไลน์ที่เราเห็นหรือคุ้นเคยกัน ส่วนมากจะถูกจัดอยู่ในหมวดนี้

3. C2C: Consumer to Consumer

เป็นการซื้อขายสินค้า และบริการ ในลักษณะจาก ผู้บริโภคไปสู่ผู้บริโภค ยกตัวอย่าง ง่ายๆ อย่างเช่น การขายสินค้ามือสองบนอินเตอร์เน็ต นั่นเอง

4. C2B: Consumer to Business

เป็นการซื้อขายสินค้า และบริการ จาก ผู้บริโภคสู่ภาคธุรกิจ เช่น เว็บไซต์จัดหาผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง โดยผู้บริโภคสามารถแจ้งความต้องการไปที่เว็บไซต์ จากนั้นทางเว็บไซต์จะทำการส่งรายชื่อผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน กลับมาให้ผู้บริโภคพิจารณาเลือก นั่นเอง สำหรับท่านที่สนใจการทำธุรกิจออนไลน์ รวมทั้งการสร้างแบรนด์ให้ประสบความสำเร็จบนโลกออนไลน์ ท่านสามารถติดตามข่าวสารและข้อมูลความรู้ดี ๆ ได้ที่นี่ฟรีเลยค่ะ