การตลาดออนไลน์ ของเว็บไซต์ชื่อดัง

การตลาดออนไลน์ นั้น ถือเป็นเรื่องใหม่ในการทำธุรกิจยุคนี้  iGITAL GEEK  ขอนำท่าน มาดูว่า แบรนด์ ใหญ่ๆ ที่เป็นเจ้าตลาดบนโลกออนไลน์ เขามีวิธีทำ การตลาดออนไลน์ บนเว็บไซต์กันแบบไหน อย่างไร  โดยเราจะมาดู 3 วิธี หลักๆ ที่เว็บไซต์  Amazon , eBay, Walgreens และ kohl ใช้ทำธุรกิจออนไลน์มาเป็นระยะเวลานาน  จนประสบความสำเร็จครับ

1.การมีเว็บไซต์ที่ใช้งานง่าย และสะดวกรวดเร็ว

เป้าหมายหลักของการมีร้านค้าบนโลกออนไลน์ คือการเพิ่มยอดขาย โดยที่บนเว็บไซต์นั้นมีปุ่มเลือกซื้อสินค้าที่ชัดเจนนั้นทำให้ลูกค้าสามารถซื้อของได้ง่ายแต่การศึกษาของ Rich relevance ระบุว่ากว่า 83% ของลูกค้า เมื่อเข้าเว็บไซต์ขายสินค้า จะใช้การค้นหาสินค้าจากแถบค้นหามากกว่าการเลื่อนดูทีละหน้า จึงทำให้มีการเพิ่มแถบสำหรับค้นหาสินค้าบนเว็บไซต์ขึ้นมาเพื่อให้ลูกค้าสามารถใช้ได้สะดวกขึ้น แต่ลูกค้าอีก 35% กลับบอกว่าการค้นหาข้อมูลจากช่องค้นหาดังกล่าว กลับไม่พบสินค้า ทำให้เจ้าของธุรกิจจำเป็นต้องพัฒนาแถบสำหรับค้นหาสินค้าบนเว็บไซต์ให้สามารถทำการค้นหาสินค้าได้ดีขึ้นกว่าเดิม โดยธุรกิจแรกที่มีการแก้ไขปัญหาดังกล่าวนี้คือ Amazon ทางเว็บไซต์ของ Amazon ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นอันดับแรก หน้าเว็บไซต์ของ Amazon จึงได้มีมีการตั้งค่าให้จัดลำดับความสำคัญของผลการค้นหาของลูกค้าแต่ละราย โดยใช้ข้อมูลมูลเดิมที่ลูกค้าเคยค้นหาผ่านการ Login เข้าสู่ระบบในแต่ละครั้งที่ผ่านมา และในส่วนของการ Login นั้น eBay ได้พัฒนาให้สามารถ Login เพียงครั้งเดียว แล้วเว็บไซต์จะทำการจดจำข้อมูล และเข้าสู่ระบบให้โดยอัตโนมัติ  ด้วยวิธีนี้ จะทำให้ลูกค้ารู้สึกสะดวกในการใช้งาน เพราะไม่ต้องใส่  username และ password ทุกครั้งที่เข้าใช้บริการ  

2.ทำให้ลูกค้าเกิดความรู้สึกว่าการซื้อของออนไลน์เป็นเรื่องง่าย

ไม่ว่าใครๆ ก็ชอบความสะดวก  คล่องตัว เพราะช่วยประหยัดเวลา การขายของออนไลน์ ของเว็บไซต์ที่ประสบความสำเร็จ จึงเน้นการทำให้การซื้อของออนไลน์เป็นที่เรื่องง่ายและสะดวก Walgreens นั้นใช้เรื่องความสะดวกรวดเร็วเป็นหัวใจหลักในการออกแบบเว็บไซต์ โดยเน้นให้ลูกค้าสามารถเข้า และออกเว็บไซต์ได้อย่างรวดเร็วโดยไม่เน้นให้ลูกค้าใช้เวลาอยู่ในร้านออนไลน์เป็นเวลานาน Adam Crouch ผู้อำนวยการฝ่ายจัดการผลิตภัณฑ์ออนไลน์ของ Walgreens ได้อธิบายว่า สิ่งที่เป็นเป้าหมายหลักของการทำให้ลูกค้าสามารถซื้อของได้อย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ คือ การมีช่องทางชำระเงินออนไลน์ หรือการใช้คูปองที่มีอยู่ในเว็บไซต์ ส่วนบริษัท kohl นั้นได้ทำการเปิดตัว Paypal ของเว็บไซต์ ซึ่งเป็นแหล่งรวบรวมการแจกของรางวัลให้แก่ลูกค้าไว้ในจุดเดียว โดยลูกค้าสามารถรับรางวัลที่ทางเว็บไซต์แจกได้ง่ายๆ โดยไม่ต้องสแกนบัตร หรือบาร์โค้ดเลย  

3.ลูกค้ารู้สึกดีหลังจากได้เข้าใช้งาน

การที่ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ดีหลังการใช้งาน หรือ User experience นั้นเป็นเรื่องที่ควรให้ความสำคัญ  เพราะหากลูกค้าเกิดความรู้สึกที่ไม่ดีหลังการใช้งาน อาจทำให้เราสูญเสียลูกค้าได้ ยกตัวอย่างเช่น ตะกร้าสินค้า (Shopping Cart)  ต้องมีระบบตะกร้าสินค้าที่ใช้งานได้ง่าย จากการศึกษาของ kohl พบว่าการที่ตะกร้าสินค้าใช้งานยากนั้น ทำให้ลูกค้าหลายคนเกิดอาการสับสน และไม่พอใจ จนออกจากเว็บไซต์ไป kohl จึงแก้ปัญหานี้ด้วยการสร้างระบบตะกร้าสินค้าขึ้นมาใหม่ โดยเน้นให้ใช้งานง่าย แม้ว่าลูกค้าจะเข้าเว็บไซต์จากอุปกรณ์อื่นๆ ที่ไม่ใช่คอมพิวเตอร์ ในช่วงแรกๆ ที่ สมาร์ทโฟน กับแทปเล็ต เริ่มเข้ามามีบทบาทในการเข้าสู่เว็บไซต์นั้น ได้เกิดปัญหาขนาดของเว็บไซต์ไม่เหมาะสมกับการแสดงผลที่หน้าจอขึ้น ทำให้กลุ่มลูกค้า ที่ใช้งานอุปกรณ์ใหม่ๆ เหล่านี้ไม่สะดวกในใช้งาน ลูกค้าจำนวนไม่น้อยจึงได้หลีกเลี่ยงการซื้อของออนไลน์ ทำให้ธุรกิจร้านค้าออนไลน์จำนวนมากในช่วงนั้นต้องพบกับปัญหาเหล่านี้ เพราะเว็บไซต์ซึ่งเป็นหน้าร้านของตนไม่สามารถตอบสนองกับการใช้งานของลูกค้าได้ บริษัท eBay ได้เล็งเห็นถึงปัญหานี้เป็นรายแรกๆ  จึงได้พัฒนาเว็บไซต์ที่สามารถรองรับกับขนาดหน้าจอที่หลากหลาย จากวิธีทำการตลาดออนไลน์หลายๆ แบบ ของแบรนด์ดังๆ ที่ประสบความสำเร็จอย่างที่ยกมาเล่าให้ฟังข้างต้นนั้น  จะเป็นแนวทางให้เราสามารถนำไปประยุกต์ใช้เพื่อพัฒนาเว็บไซต์ของธุรกิจเราได้ สำหรับท่านที่สนใจการพัฒนาเว็บไซต์ ให้มีประสิทธิภาพ รวมทั้งการตลาดและการสร้างแบรนด์บนโลกออนไลน์  iGITAL GEEK ยินดีให้คำปรึกษาท่าน โดยสามารถติดต่อได้ที่ www.facebook.com/igitalgeek หรือเข้าไปอ่านบทความและสาระน่ารู้เกี่ยวกับการตลาดออนไลน์และการสร้างตัวตนบนโลกออนไลน์ได้ฟรีที่   www.igitalgeek.com ครับ